วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

ขาย SOUND CARD CREATIVE BLASTER

ซื้อมา3,500฿ ใช้ไปไม่กี่ครั้ง
ขาย2,850฿ ครบกล่อง
สภาพเหมือนใหม่เลย เพราะอยู่ในกล่องตลอด

สนใจดูของได้แถวมอนอ
โทร 0824014898 , 0959297048










วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

BOX FAT FREE มื้อนี้ไม่มีมัน!!!

"ไม่มีมัน ชั้นก็อยู่ได้"
อาหารกล่อง FAT FREE!! มื้อนี้ไม่มีมัน
1กล่อง ประมาณ 300 กรัม พลังงานน้อยกว่า 250 แคลอรี่
ประกอบด้วย กับข้าวจากเนื้ออกไก่ล้วน ไม่หนัง ไม่มัน +ผักนึ่ง +ข้าวกล้อง

แคลอรี่น้อย เพื่อสุขภาพ ปริมาณอิ่มกำลังดี รสชาติต้องลองเอง
เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ กำลังควบคุมน้ำหนัก เข้าฟิตเนสออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กินไปเลยวันนึง 4 กล่องไม่ถึง 1000 แคลอรี่
ราคาเริ่มต้นที่ 40฿
สามารถแช่เย็นเก็บไว้ได้
กล่องสามารถอุ่นไมโครเวฟได้ 

ทำวันต่อวัน
ออเดอร์วันนี้ รับวันถัดไป
รับได้ตั้งแต่8.00น.

พิกัด
โครงการ แสงพรมแลนด์2 มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก

ติดต่อสอบถาม
LINE ID: heavydiamon
FaceBook: Wutthiphong Sukcharoen
IG: heavydiamond









http://instagram.com/p/ybO1ouhO1u/

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขายเบส YAMAHA TRB5II made in Japan (พิษณุโลก)

ขายเบส yamaha Trb5ll Made in Japan
Sp.
Body       Ash
Neck       Maple
Fingerboard Rosewood
Scale 35 
Preamp  Bartolini XTCT  Low Mid Treble 
Controls Vol,Pan,
Boost/cut Low,Mid,Treble

ของอยู่พิดโลกครับ ม.นเรศวร

ขาย31,500฿

ติดต่อสอบถาม แก้ว 082-4014898


วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

ขายหม้อหุงข้าวPHILIPS

ขายหม้อหุงข้าวPHILIPSครับ
1.8ลิตร
ไม่ได้ใช้ครับ 
ขาย950฿
ของอยู่ แสงพรมแลนด์2 มหาวิทยาลัยนเรศวร 
จ.พิษณุโลก

ติดต่อ 0824014898

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ขาย Ford Escape 2008 สีดำ

ขายรถยนต์ 
ยี่ห้อ Ford 
รุ่น Escape 
ปี 2008
เครื่อง เบนซิน 2300
สีดำ
วิ่ง4x,xxx
แมคขอบ20"
ราคา 485,000

จ.พิษณุโลก 

ติดต่อ แก้ว 0824014898





วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

16 พฤติกรรมคนละขั้วของคนประสบความสำเร็จและคนที่ล้มเหลว

16 พฤติกรรมคนละขั้วของคนประสบความสำเร็จและคนที่ล้มเหลว

1. ยอมรับความเปลี่ยนแปลง vs กลัวการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ปฏิเสธได้ การยอมรับความเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องยากที่หลายๆ คนจะสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ในโลกทุกวันนี้ที่เรามีความเปลี่ยนแปลงกันอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด มันจึงจำเป็นมากที่เราจะต้องกล้ายอมรับความเปลี่ยนแปลงและปรับตัว แทนที่จะกลัวและปฏิเสธมัน

2. อยากให้คนอื่นประสบความสำเร็จ vs หวังให้คนอื่นล้มเหลว
เมื่อคุณอยู่ในองค์กรที่มีคนมากมาย การประสบความสำเร็จหมายถึงทุกคนควรจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ไม่ใช่การหวังว่าใครคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จ ถ้าคุณมีความคิดว่าอยากให้อีกฝ่ายหรืออีกทีมล้มเหลว มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะทำงานร่วมกัน?

3. ส่งต่อความสุข vs ส่งต่อความหงุดหงิด
ในการทำธุรกิจนั้น เป็นเรื่องปรกติที่จะเกิดอารมณ์ขณะทำงาน แต่ถ้าคุณส่งต่อความสุขหรือทำให้คนรอบข้างรู้สึกสนุกร่วมไปกับคุณแล้ว ทีมก็ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า แต่หากใครส่งค่อความหงุดหงิดให้กับทีมรอบข้างแล้วก็จะยิ่งทำให้คนรอบๆ รู้สึกแย่ ไม่มีแรงกระตุ้น และยากจะทำงานให้ประสบความสำเร็จได้

4. รับผิดชอบกับความล้มเหลว vs โทษว่าเป็นเพราะผู้อื่น
คุณสมบัติข้อหนึ่งของการเป็นผู้นำที่ประสบควาสำเร็จนั้นคือการกล้ารับผิด กล้าเป็นคนที่ออกตัวว่าเป็นคนรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น การโทษคนอื่นไม่ได้นำไปสู่อะไรทั้งนั้นหากแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมเสียอีก

5. พูดคุยเรื่องของไอเดีย vs พูดคุยแต่เรื่องคนอื่น
การเอาแต่พูดคุยว่าคนอื่นเป็นอย่างไร การซุบซิบนินทาไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรทั้งนั้น มีแต่เสียเวลาไปเปล่าๆ อีกต่างหาก คนที่ประสบความสำเร็จจึงไม่ใช้เวลาไปกับการนินทาคนอื่น หากแต่จะเน้นในการแลกเปลี่ยนความคิดหรือหาวิธีที่จะขับเคลื่อนความคิดต่างๆ ไปข้างหน้า

6. แลกเปลี่ยนไอเดียและข้อมูล vs หวงข้อมูล
การแชร์สิ่งที่มีประโยชน์ให้กับคนอื่นมีแต่จะเป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่แคร์คนอื่น ยิ่งในยุค Social Media นั้น การแชร์เรื่องราวดีๆ เป็นส่วนสำคัญของการประสบความสำเร็จ มันยิ่งทำให้คนอื่นสามารถมาร่วมกับคุณในการไปสู่ความสำเร็จได้ แต่การเอาแต่หวงข้อมูลนั้นมีแต่ทำให้คุณเห็นแก่ตัวและคิดถึงผลลัพธ์ในระยะสั้นเท่านั้น

7. ให้เครดิตทุกคนที่ทำให้ประสบความสำเร็จ vs เอาเครดิตจากคนอื่น
การทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องสำคัญในการประสบความสำเร็จ มันจำเป็นมากที่ผู้นำจะต้องไม่เอาเครดิตจากคนอื่น แต่ในทางตรงกันข้ามคือให้พวกเขาถูกได้รับการให้ความสำคัญหรือการให้พวกเขาได้มีเวทีที่จะถูกยอมรับ สิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขาทำงานอย่างมีใจในระยะยาวและทุ่มเทกับงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

8. ตั้งเป้าหมายชีวิต vs ไม่ตั้งเป้าหมายชีวิต
มันเป็นเรื่องยากถ้าคุณจะประสบความสำเร็จโดยที่คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังจะมุ่งเป้าไปที่อะไร การตั้งเป้าหมายของชีวิตเป็นแผนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 10 ปี 3 ปี หรือการวางแผนว่าคุณจะทำอะไร / เป็นอะไรในแต่ละปีนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนประสบความสำเร็จมักทำกันเพื่อให้พวกเขารู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่และสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นทำให้เขาเข้าใกล้ความสำเร็จแค่ไหน

9. จดบันทึก vs บอกว่าคุณจดบันทึกแต่จริงๆ ไม่ได้ทำ
ไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์มักเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันอยู่บ่อยๆ หลายๆ ทีมันมักมาแบบผิดที่ผิดเวลา คนที่ประสบความสำเร็จมักจะรีบจดโน๊ตเพื่อบันทึกไอเดียเหล่านั้นอยู่เสมอๆ เพื่อไม่ให้ไอเดียเหล่านั้นสูญหายไป และหลายๆ ครั้งที่ไอเดียเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดงานดีๆ หรือทำให้หลายๆ คนประสบความสำเร็จได้เลยทีเดียว

10. อ่านหนังสือทุกวัน vs ดูทีวีทุกวัน
การอ่านหนังสือทุกๆ วันจะทำให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ อยู่เสมอ การอ่านที่ว่านี้อาจจะรวมไปถึงการอ่านบล็อก การอ่านนิตยสาร หรือหนังสือดีๆ ซึ่งทำให้คุณได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม การดูทีวีส่วนใหญ่มักนำไปสู่การทำให้คุณผ่อนคลาย ได้ความบันเทิง ได้หลีกหนีจากความเครียด แต่คุณแทบจะไม่ได้อะไรจากทีวีที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จสักเท่าไร

11. ทำงานด้วยมุมมองที่ปรับตัวอยู่เสมอ vs ทำงานในมุมมองแบบเดิมๆ
ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมักจะมองหาวิธีการทำงานที่ดีขึ้นไปกว่าเดิม ทำให้งานไปสู่อีกขั้นหนึ่งอยู่เสมอ พวกเขามักมองการทำงานเป็นเหมือนความท้าทายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแทนที่จะสนใจแค่การสร้างยอดขายหรือทำงานให้เสร็จๆ ไปในแต่ละวัน

12. เรียนรู้อยู่เสมอ vs หยุดที่จะเรียนรู้
ความรู้ในโลกนี้มีมากมายและยังมีเรื่องราวอีกมหาศาลที่คุณยังไม่ได้รู้ แม้แต่ในสายงานของคุณเองก็ตาม การเรียนรู้และพัฒนาตัวเองคือวิธีเดียวที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ คุณจะเหนือกว่าคนอื่นหรือเป็นที่โดดเด่นได้ก็เพราะคุณรู้มากกว่าคนอื่น ถ้าคุณหยุดที่จะเรียนรู้หรือคิดว่าตัวเองรู้แล้ว ในไม่ช้าคุณก็จะเป็นผู้ตามในที่สุด

13. กล่าวชมคนอื่น vs วิจารณ์คนอื่น
การชมคนอื่นเป็นวิธีที่ดีในการแสดงความห่วงใยคนที่คุณแคร์ การให้คำชมเป็นวิธีในการสร้างพลังงานและกำลังใจให้บคนทำงาน ในขณะที่การวิจารณ์คน (แบบไม่ดี) มีแต่จะทำให้คนรู้สึกแย่และไม่ได้นำไปสู่อะไรที่เป็นประโยชน์เท่าไรนัก

14. ยกโทษคนอื่น vs เจ้าคิดเจ้าแค้น
ใครๆ ก็ผิดพลาดกันได้ การให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวผ่านความผิดพลาดและทำให้ดีขึ้น แต่การตำหนิ ใส่อารมณ์ หรือตามแค้นก็มีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลงไปกว่าเดิมต่างหาก

15. รู้ในสิ่งที่คุณ “อยากเป็น” vs ไม่รู้ว่าคุณอยากเป็นอะไร
การทำลิสต์ “To-Be” เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีมากของการตั้งเป้าหมายว่าอนาคตคุณจะเดินไปทางไหน มันทำให้คุณเห็นภาพว่าอนาคตคุณจะเป็นอย่างไรและย้อนกลับมาว่าคุณไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร คนที่ประสบความสำเร็จมักมีภาพในหัวชัดมากว่าพวกเขาอยากเป็นอะไร แต่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักไม่มีภาพเหล่านี้อยู่ในหัวเลย

16. กตัญญูและซาบซึ้งกับสิ่งรอบข้าง vs ไม่รู้สึกอะไรกับโลกรอบข้าง
การที่คุณสามารถ “รู้สึก” กับสิ่งรอบข้างทำให้คุณเห็นคุณค่าของความสำเร็จและความสุขมากมายรอบตัว นอกจากนี้คนที่คุณรู้สึกดีมากมักเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ อย่าลืมที่จะขอบคุณและเห็นคุณค่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของคุณเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเข้าใจคำว่า “ความสำเร็จ” มากขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม